Skip to content
ความรู้และสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ยา และโรค

ความรู้และสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ยา และโรค

ดูหนังออนไลน์ฟรี 2019
  • หน้าหลัก
  • ยาสามัญประจำบ้าน
    • 3 คุณสมบัติ ตู้ยาสามัญประจำบ้าน
    • สถานที่ตั้งตู้ยาสามัญประจำบ้าน
    • ยาสามัญประจำบ้าน ทั้ง 16 กลุ่ม
  • วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
    • วิธีปฐมพยาบาล เมื่อถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
    • วิธีแก้เมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบิน
  • วิธีการใช้ยา
    • วิธีใช้ยา เมื่อมีอาการน้ำมูกไหล
    • วิธีใช้ยาเมื่ออาการ ปวดหัว ปวดหลัง ปวดส่วนต่างๆ
  • บทความ
  • เกี่ยวกับ
  • ติดต่อ
วิธีใช้ยา เมื่อมีอาการปวดหัว
อ่านต่อ
วิธีปฐมพยาบาล เมื่อโดนไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
อ่านต่อ
วิธีปฐมพยาบาล
เมื่อมีอาการเมาเครื่องบิน เมารถ เมาเรือ
อ่านต่อ
วิธีใช้ยา เมื่ออาการ น้ำมูกไหล
Heading layer
อ่านต่อ
previous arrow
next arrow
Slider

เชื้อดื้อยา หายยาก แรงถึงตาย รู้จักป้องกันก่อนสาย

Posted on December 10, 2019December 10, 2019 by visaza_effects

อดีต

โรคฝีดาษเคยระบาดในประเทศจีนและญี่ปุ่นและคร่าชีวิตประชากรในประเทศถึง 1 ใน 3
ตอนนี้ องค์การอนามัยโลกประกาศว่า โรคฝีดาษได้หมดไปจากโลกนี้แล้ว

ปัจจุบัน

โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของประเทศไทย มีผู้ป่วยใหม่ กว่าแสนคนต่อปี

ตอนนี้ นายแพทย์ฮอนโจะ ทะสุกุ ผู้ได้รับรางวัลโนเบลปี 2018 จากการค้นคว้าวิธีรักษามะเร็งด้วยการใช้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย กล่าวว่า ไม่เกิน 10 ปี มะเร็งจะสามารถรักษาได้

อนาคตอันใกล้

เชื้อดื้อยาถูกคาดการณ์ว่า จะเป็นต้นเหตุหลักการเสียชีวิตของมนุษย์แซงหน้ามะเร็ง และภายในปี พ.ศ. 2593 ประชากรโลกกว่า 10 ล้านคนอาจเสียชีวิตจากเชื้อดื้อยา

และในตอนนี้ประเทศไทยมีคนเสียชีวิตจากเชื้อดื้อยาประมาณ 15 นาทีต่อคน

จากประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่ยกมาข้างต้นชี้ให้เห็นว่า ความตายคือสิ่งที่มนุษย์พยายามเอาชนะมากที่สุด ต่อให้เป็นโรคร้ายแค่ไหน มนุษย์จะพยายามค้นคว้าหา “วิธี” รักษาจนสำเร็จ ซึ่งที่ผ่านมา “ยา” คือ “วิธี” ที่มนุษย์ใช้ในการเอาชนะความตายจากโรคภัยไข้เจ็บ

เราจึงไว้ใจ “ยา” เสมอมา แต่สำหรับวิกฤติเชื้อดื้อยานั้น มันกำลังทำให้เราต้องตั้งคำถามกันใหม่ เพราะ “ยา” ได้กลับกลายเป็นต้นตอของสาเหตุของปัญหาเสียเอง

ด้วยเหตุนี้เชื้อดื้อยาจึงกลายเป็นวาระสำคัญของทุกประเทศ และองค์กรอนามัยโลกได้กำหนดให้มีสัปดาห์ตระหนักรู้เรื่องเชื้อดื้อยาในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งประเทศไทยในวันที่ 12-18 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 ก็จะมี “สัปดาห์รู้รักษ์ ตระหนักใช้ยาต้านแบคทีเรีย” เช่นกัน เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนรับรู้และป้องกันอันตรายจากเชื้อดื้อยา

สาเหตุหลักๆ ของเชื้อดื้อยามาจากการใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาอย่างไม่ถูกวิธี การใช้ยาปฏิชีวนะในอุตสาหกรรมอาหาร และการปนเปื้อนในสภาพแวดล้อม เสริมกับพฤติกรรมความเคยชิน รวมถึงการขาดความรู้ ทำให้สถานการณ์ของเชื้อดื้อยามีความรุนแรง และควบคุมได้ยาก

“หากเทียบกับการเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ อาการของโรคพวกนี้จะชัดกว่า หาสาเหตุได้ง่ายกว่า แต่สำหรับเชื้อดื้อยานั้น มันจะชัดเจนตอนที่เราอยู่ในภาวะวิกฤติของการรักษา คนที่เป็นเชื้อดื้อยามักเสียชีวิตจากการเป็นปอดบวม เพราะร่างกายมันไม่สามารถรับยาได้อีกแล้ว จากการผ่านยามาเยอะ

และแนวโน้มของเชื้อดื้อยาก็มีความรุนแรงสูงมากขึ้น เพราะต่อให้เราคิดยาใหม่สำเร็จ บางครั้งก็ไม่สามารถต่อกรกับเชื้อแบคทีเรียได้ เพราะแบคทีเรียมีความแข็งแรงและมีความสามารถในการปรับตัวให้มีชีวิตสูงมาก มันสามารถปรับตัวได้เร็วกว่ามนุษย์หลายเท่า”

พญ.วารุณี พรรณพานิช จากสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ได้เล่าถึงแนวโน้มของวิกฤติเชื้อดื้อยาที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ WHO ที่ได้ยกเรื่องเชื้อดื้อยาขึ้นมาเป็นวาระสำคัญ

เชื้อดื้อยาเป็นภัยร้ายที่โอบล้อมเราเข้ามาเรื่อยๆ ไม่เกี่ยง เพศ วัย หรือฐานะ อย่างไรก็ตามในบางช่วงวัยก็ต้องให้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ

“วัยที่มีความเสี่ยงมากที่สุด คือ ช่วง Extreme Age ซึ่งก็คือ วัยเด็กเล็กมาก กับคนสูงอายุเพราะกลุ่มคนเหล่านี้จะมีภูมิคุ้มกันร่างกายไม่มากพอ ทำให้ติดเชื้อง่าย ในส่วนของวัยทำงานทั่วไป อาจเกิดจากการซื้อยากินเอง แล้วกินอย่างไม่ถูกต้อง ทำให้มีเชื้อสะสมอยู่ในร่างกาย แต่ยังไม่ลุกลาม” พญ.วารุณีกล่าว

ซึ่งในกรณีของเด็กเล็กที่เป็นเชื้อดื้อยา พญ.วารุณี ได้เล่าถึงตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงว่า เด็กบางคนแค่พ่อแม่ขายไก่ทอดที่อาจมีการใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยง ก็สามารถทำให้เชื้อดื้อยาแพร่ผ่านการสัมผัสจากพ่อแม่สู่ลูกได้

“ความน่ากลัวที่สุดของเชื้อดื้อยาคือ มันซ่อนอยู่ แต่เราไม่มีทางรู้ตัว ซึ่งการจะรู้ได้นั้นต้องไปรับการตรวจที่ห้องปฏิบัติการทางจุลวิทยา หรือที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ ซึ่งตามคลินิกหรือบางโรงพยาบาลอาจจะไม่สามารถตรวจได้ เพราะขาดเครื่องมือ” พญ.วารุณี กล่าวทิ้งท้าย

ดังนั้นทางที่ดีที่สุด เราจึงควรดูแลตนเอง หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดเชื้อดื้อยา ด้วยแนวทางดังนี้

  1. อย่าใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น
  2. หากจำเป็นต้องกินยาปฏิชีวนะต้องกินตามคำสั่งแพทย์หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัด
  3. ไม่กินยาปฏิชีวนะกับโรคที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส เช่น อุจจาระร่วง แผลสดจากอุบัติเหตุ และหวัดเจ็บคอ (หวัดเจ็บคอ 80% มักมีสาเหตุจากเชื้อไวรัส พักผ่อนเพียงก็หายเองได้)
  4. หมั่นล้างมือให้ถูกวิธี เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อจากการสัมผัส

และถ้าเราสามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดเชื้อดื้อยาเพิ่มเติมเป็นระยะเวลาหนึ่ง เชื้อดื้อยาที่เคยสะสมอยู่ในร่างกายของเราจะค่อยๆ สลายหายไปได้

แม้วันนี้เราอาจจะยังไม่สามารถสรุปผลแพ้ชนะ และจำนวนการสูญเสียที่แน่ชัดของมนุษย์จากเชื้อดื้อยาได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราอาจเรียนรู้ได้ทันทีก็คือ มนุษย์คือต้นเหตุของวิกฤติในครั้งนี้ และทางแก้ก็คือความร่วมมือร่วมใจของเราทุกคนที่จะลดปัจจัยในการเกิดเชื้อดื้อยา เพื่อทำให้มูลค่าของบทเรียนไม่สูงเกินกว่าจะจ่ายไหว

Posted in บทความ

Post navigation

หลักการใช้ยาที่ถูกต้องและปลอดภัย
ยาสามัญประจำบ้าน ที่ทุกบ้านควรมี!

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

dg gaming
ดูหนังใหม่ชนโรง
Copyright © 2019 via1sideffects.com ดูซีรี่ย์จีน
  • หน้าหลัก
  • ยาสามัญประจำบ้าน
    ▼
    • 3 คุณสมบัติ ตู้ยาสามัญประจำบ้าน
    • สถานที่ตั้งตู้ยาสามัญประจำบ้าน
    • ยาสามัญประจำบ้าน ทั้ง 16 กลุ่ม
  • วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
    ▼
    • วิธีปฐมพยาบาล เมื่อถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
    • วิธีแก้เมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบิน
  • วิธีการใช้ยา
    ▼
    • วิธีใช้ยา เมื่อมีอาการน้ำมูกไหล
    • วิธีใช้ยาเมื่ออาการ ปวดหัว ปวดหลัง ปวดส่วนต่างๆ
  • บทความ
  • เกี่ยวกับ
  • ติดต่อ